ภาพยนตร์ภาคต่อสุดยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ Indiana Jones กลับมาอีกครั้งในภาคนี้ โดยมีดิสนีย์สตูดิโอมากำกับร่วมกับ เจมส์ แมนโกลด์ ที่เคยฝากผลงานมาแล้วในภาพยนตร์ชื่อดังทั้ง Ford v Ferrari และ Logan กันมาแล้ว ซึ่งในอินเดียน่าโจนส์ภาพนี้ได้นักแสดงนำอย่าง แฮริสัน ฟอร์ด ระดับตำนานที่กลับมารับบท อินเดียน่า โจนส์ นักโบราณคดีผู้ผจญภัยไปทั่วโลกเพื่อค้นหาสมบัติและไขปริศนาของวัตถุโบราณอีกครั้ง
สำหรับ อินเดียนา โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา ในภาคนี้ จะเป็นสตอรี่ที่อยู่ในไทม์ไลน์ช่วงปี 1969 อินเดียน่า โจนส์ ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี กำลังเดินทางไปยังอินเดียเพื่อค้นหากงล้อแห่งโชคชะตา วัตถุโบราณที่เชื่อกันว่าสามารถควบคุมโชคชะตาของผู้คนได้ กงล้อแห่งโชคชะตาถูกเก็บรักษาไว้ในห้องใต้ดินของมหาวิหารแห่งหนึ่งในอินเดีย แต่ถูกขโมยไปโดยกลุ่มนักโบราณคดีที่ชั่วร้ายที่ต้องการใช้มันเพื่อครองโลก เขาจึงต้องร่วมมือกับ มอลลี่ แมคคาร์ตี ลูกสาวเพื่อออกตามหากงล้อแห่งโชคชะตา จนต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทั้งการไล่ล่าจากกลุ่มนักโบราณคดีสุดชั่วร้าย การต่อสู้กับสิ่งประหลาดโบราณ และภัยอันตรายจากธรรมชาติที่ไไม่คาดคิดมาก่อน
สำหรับเรื่องราวในภาคนี้ก็นับว่าเป็นเฟรนไชส์ Indiana Jones ยุคใหม่แต่ยังคงคอนเส็ปต์เดิมไว้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชันสุดมันส์ ปริศนาโบราณที่ชวนติดตาม เรื่องราวสุดเข้มข้นตามแบบฉบับ แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิมคงต้องยกให้เรื่องของงานภาพซีจีต่างๆ ที่ยกเครื่องใหม่ได้สวยงามมากๆ เพรราะได้ดิสนีย์สตูดิโอมาช่วยกำกับงานสร้างในภาคนี้ จนเรียกได้ว่าซีจีวิชวลเอฟเฟกต์ต่างๆ ทันสมัยและสมจริงแบบไม่เคยมีมาในภาคก่อนแน่นอน
ฉากแอ็คชันในภาคเรื่องนี้จัดได้ว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยมทีเดียว ความตื่นเต้นเร้าใจจากการออกแบบท่าทางที่สมจริงจากกฎฟิสิกซ์ต่างๆ ที่ยกระดับมาจากภาคก่อนเยอะมาก ส่วนเรื่องปริศนาโบราณก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งจะเล่นกับการเชื่อมโยงกับตำนานและประวัติศาสตร์โบราณที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตามว่าอินเดียน่า โจนส์ เขาผู้นี้นั้นจะไขปริศนาเหล่านี้ได้อย่างไร นอกจากนี้แล้วยังมีมุกตลกสไตล์ดิสนีย์ที่มาคอยตบในแต่ละฉากให้มีสีสันมากขึ้นด้วย จนเรียกได้ว่าครบแบบกลมกล่อมทีเดียว
โดยรวมแล้ว Indiana Jones and The Dial of Destiny น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องในตำนานที่คัมแบ็คกลับมาอีกครั้งกับการผจญภัยที่สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึกกับปริศนาและดินแดนโบราณสถานที่มีความลี้ลับมากมายซ่อนอยู่ คอหนังแนวผจญภัยก็คงจะคุ้นเคยกันดีและไม่น่าจะพลาดกันในเรื่องราวของภาคนี้ บวกกับได้รับคะแนนจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes อยู่ที่ 82% และจากเว็บไซต์ Metacritic อยู่ที่ 73 คะแนน กันอีกด้วย แต่จะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องลองไปติดตามรับชมกัน